วาฬหลังค่อม
ลักษณะ
วาฬหลังค่อม จัดเป็นวาฬขนาดใหญ่เป็นอันดับ 8 ของวาฬทั้งหมด น้ำหนักตัวอาจถึง 45 ตัน มีความยาว 25 เมตร พบกระจายพันธุ์ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนเหนือราว 10,000 - 25,000 ตัว ในปี 2008[4] มีความโดดเด่นที่ครีบอกและหางที่ยาว โดยเฉพาะครีบอก อันเป็นที่มาของชื่อสกุล
อาหารและการกิน
วาฬหลังค่อมเป็นวาฬที่หากินด้วยการกรองกินด้วยบาลีน ซึ่งมีแผ่นกรองกว่า 800 แผ่นที่ขากรรไกรด้านบน เพื่อกรองอาหารประเภทปลาและสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ เช่น เคย, แพลงก์ตอน และเป็นวาฬที่รู้จักการหาอาหารร่วมกัน เช่น การไล่ต้อนฝูงปลา เป็นต้น โดยจะกินอาหารมากถึงวันละ 1 ตัน วาฬหลังค่อมเพศเมียตกลูกทุก 2-3 ปี มีระยะเวลาตั้งท้องนาน 11 เดือน ตกลูกครั้งละ 1 ตัว ลูกวาฬจะกินนมจากแม่เป็นปริมาณ 100 แกลลอนทุก ๆ วัน
เสียงของวาฬ
รีเบคคา ดันลอป นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ได้ศึกษาเรื่องรหัสเสียงวาฬหลังค่อม พบว่ามีความแตกต่างกันอย่างน้อย 34 เสียง ซึ่งเป็นระบบการสื่อสารเฉพาะของวาฬหลังค่อมเอง [5] ซึ่งใช้เสียงในการติดต่อสื่อสารและหาคู่ ซึ่งได้ยินไปไกลได้ถึง 161 กิโลเมตร และอยู่ได้นานถึง 1 ชั่วโมง นอกจากนี้แล้วจากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ที่อ่าวเอกซ์เมาท์ รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลีย เป็นเวลา 24 ชั่วโมง พบว่า ลูกวาฬสามารถสื่อสารกับแม่ด้วยคลื่นเสียงที่ต่ำกว่า 40 เดซิเบลเพื่อหลีกเลี่ยงการได้ยินของสัตว์นักล่าในทะเล เช่น ฉลามขาว หรือวาฬเพชฌฆาต ได้ด้วย[6]
พฤติกรรม
วาฬหลังค่อม เป็นวาฬที่เป็นรู้จักกันเป็นอย่างดีจากพฤติกรรมชอบกระโดดตัวขึ้นเหนือน้ำ ซึ่งเป็นภาพที่น่าประทับใจสำหรับผู้พบเห็น เหตุที่กระโดดนั้นมีหลายประการ ทั้ง กระโดดเพื่อสลัดเพรียงที่เกาะอยู่ตามตัวให้หลุดออก หรือ กระโดดเพื่ออวดตัวเมีย เมื่อมีตัวผู้ตัวหนึ่งกระโดดก่อน ตัวอื่น ๆ ก็จะกระโดดตามเหมือนแข่งขันกัน[7]
ถิ่นที่อยู่
พบกระจายพันธุ์ในทะเลเปิดและมหาสมุทรทั่วโลก จะมีการอพยพย้ายถิ่นในช่วงฤดูหนาวของทุกปี จะอพยพจากแหล่งอาหารใกล้ขั้วโลกมาสู่ทะเลเปิดในแถบใกล้เส้นศูนย์สูตรที่อุณหภูมิอบอุ่นกว่า เพื่อผสมพันธุ์และขยายพันธุ์ ลูกวาฬจะกำเนิดมาในช่วงนี้ รอจนกระทั่งอายุได้ 5 เดือนที่ลูกวาฬแข็งแรงพอแล้ว แม่วาฬจะพาลูกเดินทางกลับไปสู่ขั้วโลกที่ ๆ ซึ่งมีแพลงก์ตอนซึ่งเป็นอาหารอุดมกว่า โดยในระยะนี้แม่วาฬจะไม่กินอะไรเลยเป็นระยะเวลานานหลาย ๆ เดือน ซึ่งจะใช้พลังงานจากไขมันที่เก็บสะสมไว้ก่อนหน้านั้น[8] วาฬหลังค่อมเป็นวาฬชนิดที่ว่ายน้ำได้ช้า และไม่สามารถกลั้นหายใจได้นานเหมือนวาฬชนิดอื่น โดยกลั้นหายใจได้เพียง 4-7 นาที และว่ายน้ำได้เร็วเพียง 14.5 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในประเทศไทยไม่จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองหรือสัตว์ป่าสงวนแต่อย่างใด[9] และจัดเป็นวาฬอีกชนิดหนึ่งที่ถูกล่าเพื่อใช้เนื้อและไขมันรวมทั้งบาลีนในเชิงอุตสาหกรรมมาตั้งแต่อดีต[10]
วาฬหลังค่อม ที่อาศัยในมหาสมุทรอินเดียแถบคาบสมุทรอาระเบีย เป็นประชากรวาฬหลังค่อมที่ไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โดยจะอาศัยหากินอยู่ในแถบนี้ตลอดทั้งปีจากกระแสน้ำเย็นที่พัดเข้ามาในบางช่วงของปี จากการศึกษาทางดีเอ็นเอพบว่า วาฬหลังค่อมกลุ่มนี้ไม่ได้มีการผสมพันธุ์กับวาฬหลังค่อมในส่วนภูมิภาคอื่นนานกว่า 60,000 ปีแล้ว และอาจเป็นไปได้ว่าเป็นชนิดใหม่[11]
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น